Keyword
SEO, เทคนิคการทำเว็บไซต์, ตั้งค่า SEO
SEO, เทคนิคการทำเว็บไซต์, ตั้งค่า SEO

พื้นฐาน SEO ที่ดี เริ่มต้นที่ “Keyword”

การเลือกใช้ Keyword เป็นสิ่งแรกที่คุณต้องนึกถึงเมื่อคุณเริ่มต้นทำเว็บไซต์ เพราะมันคือปัจจัยสำคัญที่สุดในการทำ SEO หากคุณเลือก Keyword ผิด ก็ยากที่เว็บไซต์ของคุณจะติดอันดับบน Google ได้

เรามาทำความรู้จักกับ Keyword และวิธีการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณกันครับ

Keyword คืออะไร ?

Keyword คือคำหรือวลีที่คนใช้ค้นหาสิ่งที่ตัวเองต้องการบน Search Engine (Google) ไม่ว่าจะเป็นสินค้า บริการ ปัญหา หรือความต้องการอื่นๆ เมื่อมีคนเสิร์ชอะไรบางอย่างบน Google แล้วในประโยคนั้นมี Keyword ตรงกับเว็บไซต์ เว็บไซต์ของคุณก็จะแสดงขึ้นบนหน้า Google

ถ้าคุณเข้าใจพฤติกรรมการค้นหาของลูกค้า ก็จะช่วยให้คุณเลือก Keyword ได้ถูกต้อง ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ทำให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จัก และมีคนคลิกเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น

แล้วประเภทของ Keywords มีอะไรบ้าง ?

Generic Keyword

Keyword ทั่วไป เป็นคำ หรือวลีกว้างๆ ไม่เฉพาะเจาะจง เป็นคำที่มีปริมาณค้นหาสูงมาก ข้อดีคือ ถ้าคุณทำให้เว็บไซต์ติดอันดับด้วย Keyword ประเภทนี้ได้ ก็จะทำให้เว็บไซต์ และธรุกิจของคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่การจะทำให้ติดอันดับต้นๆ ก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะคำที่มีปริมาณค้นหาสูง คู่แข่งของคุณก็มีมากเช่นกั

ยกตัวอย่าง Generic Keyword

  • ถ้าเว็บไซต์ของคุณเป็นธุรกิจเกี่ยวกับ อาหารญี่ปุ่น อาจจะใช้ Keyword คำว่า “ร้านอาหารญี่ปุ่น” “บุฟเฟต์ซูชิ”
  • ถ้าเว็บไซต์ของคุณเป็นสินค้าเครื่องสำอาง อาจจะใช้ Keyword “เครื่องสำอางเกาหลี” “ขายเครื่องสำอางออนไลน์” เป็นต้น

Keyword

Niche Keyword

ลองทำให้ Keyword ของคุณแคบลงมาอีกนิด การใช้ Keyword ชนิดนี้มีข้อดีคือ ทำให้กลุ่มเป้าหมายของคุณเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ตรงตามความต้องการของคนเสิร์ชมากขึ้น สร้างโอกาสในการขายได้มากขึ้น และทำให้คู่แข่งลดลงกว่าการใช้แบบ Generic Keyword

ยกตัวอย่าง Niche Keyword

  • ถ้าเว็บไซต์ของคุณเป็นธุรกิจเกี่ยวกับ อาหารญี่ปุ่น คุณอาจจะใช้คำว่า “ร้านอาหารญี่ปุ่น พญาไท” “บุฟเฟต์ซูชิ พญาไท” “บุฟเฟต์แซลมอน พญาไท”
  • ถ้าเว็บไซต์ของคุณเป็นสินค้าเครื่องสำอาง อาจจะใช้ Keyword คำว่า “เครื่องสำอาง ยี่ห้อ….” “เครื่องสำอาง Sulwhasoo”

Keyword

Longtail Keyword

เป็น Keyword ที่เฉพาะเจาะจง บอกความต้องการของคนที่เสิร์ชชัดเจน แม้ปริมาณการค้นหาอาจจะต่ำ และไม่กว้างเท่ากับ 2 ประเภทที่กล่าวไป แต่ก็เรียกได้ว่าเป็น Keyword ที่ทำเงินให้กับคุณเลย เพราะคนที่เสิร์ช Keyword กลุ่มนี้ คือคนที่มีความต้องการที่จะซื้อสินค้าแบบเฉพาะเจาะจง

ยกตัวอย่าง Longtail Keyword

  • ถ้าเว็บไซต์เป็นธุรกิจเกี่ยวกับ อาหารญี่ปุ่น Keyword ก็อาจจะเป็น “ร้านอาหารญี่ปุ่น พญาไท มีที่จอดรถ”
    “บุฟเฟต์ ซูชิ ไม่จำกัดเวลา”
  • ถ้าเว็บไซต์เป็นสินค้าเครื่องสำอาง อาจจะใช้ Keyword คำว่า Sulwhasoo Lumitouch Skin Cover SPF 25 / PA++ เป็นการเจาะจงตัวสินค้าไปเลย

เมื่อเราได้ Keyword สำหรับเว็บไซต์ของเราแล้ว ก็อย่าลืมนำไปใส่ในเว็บไซต์ และบทความของคุณด้วย เพราะถ้าคุณลืมใส่เว็บไซต์ของคุณก็อาจจะไม่ติดอัน และไม่ถูกแสดงบน Google ก็เป็นได้

หากไม่แน่ใจว่า Keyword ที่เราเลือกมีค้นใช้ค้นหาหรือไม่ เราสามารถตรวจสอบปริมานการค้นหา และเปรียบเทียบ Keyword แต่ละคำได้ ด้วยการใช้เครื่องมืออย่าง Google Trend