GEO คืออะไร? การทำ SEO เพื่อ AI เทรนด์ใหม่ที่ธุรกิจควรรู้

ในโลกที่ทุกคนต่าง ๆ พึ่งพา AI ในการใช้ชีวิต การที่คุณเข้า Google แล้วพิมพ์คำถามว่า ‘ ชาเขียว เพียวมัทฉะ ’  สิ่งที่ได้ไม่ใช่แค่ลิงก์เว็บไซต์ที่เรียงอันดับลงมาเรื่อย ๆ แต่เป็นคำตอบด้านบนสุดที่ถูกสรุปให้ครบเรียบร้อย ทั้งชื่อ คุณสมบัติ วิธีการทำและแหล่งหาซื้อ นี่แหละค่ะคือสิ่งที่เรียกว่า Generative Engine Optimization หรือ GEO AI ที่จะเข้ามาช่วยให้การหาคำตอบบน Google นั้นง่ายขึ้น

 

GEO มีทั้งความคล้ายและแตกต่างจากการทำ SEO เพราะ GEO ไม่ใช่แค่เล่นกับอัลกอริทึมของ Google เท่านั้น แต่มันคือการเขียนเนื้อหาให้ AI เข้าใจและนำไปใช้ได้ โดยตรง ไม่ได้มุ่งหวังให้คนค้นและคลิกเสมอไป แต่มองไกลไปถึง AI ที่จะหยิบข้อมูลบนเว็บไซต์ของคุณไปใช้ตอนมันตอบคำถามผู้ใช้งาน ระบบ AI Search อย่าง ChatGPT และ Bard กำลังเปลี่ยนพฤติกรรมการหาข้อมูลและการทำ GEO คือการเตรียมเนื้อหาไว้ให้พร้อมเข้าสู่กระบวนการนั้นนั่นเอง

 

ทำไมต้องทำ GEO 

จากสถิติของ Work Trend Index ได้บอกไว้ว่า 92% ของจำนวนพนักงานคนไทยได้เอา AI เข้ามาใช้ในการทำงานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจำนวนที่ว่านี้สูงกว่าค่าเฉลี่ยการใช้งานของพนักงานทั่วโลกถึง 17% นั่นหมายความว่าโอกาสที่ AI จะมีบทบาทในการแนะนำผลิตภัณฑ์ แนะนำบริการหรือเป็นผู้เลือกคอนเทนต์แทนลูกค้านั้นมีมากขึ้นกว่าเดิมมาก GEO ก็เลยสำคัญกับการทำออนไลน์มากขึ้นตามไปด้วย เพราะเนื้อหาบางชิ้นที่คุณทำ อาจไม่ได้รอให้คนคลิกเข้ามาอ่าน แต่มันมีโอกาสได้กลายเป็นคำตอบแรกที่ AI หยิบไปใช้ค่ะ

 

 

เทคนิคการทำ GEO ให้มีประสิทธิภาพ

การทำ GEO จะไม่ได้เน้นแค่เรื่องของโค้ดหรือเทคนิคเป็นหลักสำคัญ แต่มันเกี่ยวข้องกับความเข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้งานที่ AI เองก็จะต้องเก็บข้อมูลไปเรียนรู้ทุกวันเพื่อให้ได้ข้อมูลที่สดใหม่ที่สุด หลักในการทำ GEO AI จะดึงคำตอบที่เป็นมิตรกับผู้ใช้มากที่สุดไปแสดงนั่นเอง

 

1. เพิ่มความหลากหลาย-ความลึกของเนื้อหา

ถ้าเนื้อหาของเราเป็นแค่บทความสั้น ๆ หรือเขียนแบบกว้าง ๆ ที่ใคร ๆ ก็เขียนได้ AI อาจจะแค่เหลือบมองแล้วก็ผ่านไปค่ะ สิ่งที่ AI ตามหาคือมุมมองที่มันเฉพาะเจาะจงหรือข้อความความรู้แบบเชิงลึกที่แตกต่าง

ยกตัวอย่าง

• แบบเดิม ๆ – ชื่อบทความ ” 5 ของใช้เด็กยอดนิยมที่คุณแม่ต้องรู้ “
• แบบใหม่ – เปลี่ยนเป็น ” 5 ของใช้เด็กยอดนิยม และปัญหาที่คุณแม่มือใหม่ต้องเจอ “

การเจาะลึกแบบนี้จะทำให้ AI เห็นว่าเราไม่ได้แค่ลิสต์สินค้าแต่เราให้วิธีแก้ปัญหา ทำให้เนื้อหาของเราดูมีคุณค่าและดูเป็นผู้เชี่ยวชาญขึ้นมาทันทีค่ะ

 

2. ใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติ

สำหรับการทำ GEO AI ชอบภาษาที่เหมือนกับที่เราคุยกันในชีวิตประจำวันค่ะ คือ มีเนื้อหาที่สื่อสารตรงประเด็น ไม่ซับซ้อน การทำเนื้อหาที่เหมือนเป็นบทสนทนาจะช่วยให้ AI ดึงเนื้อหาไปสรุปได้ง่ายขึ้นมาก ๆ เมื่อเขียนเนื้อหาเสร็จแล้วให้ลองอ่านเนื้อหานั้นออกเสียงดูค่ะ เราจะรู้ได้ทันทีว่ามันแปลกมั้ย เข้าใจง่ายมั้ย ถ้าเราและคนอื่น ๆ รู้สึกแบบนั้นก็แปลว่าเรามาถูกทางแล้วล่ะ 

 

3. ใช้โครงสร้างข้อมูล (Schema Markup) เพื่อแปะป้ายกำกับให้ AI

Schema Markup เปรียบเสมือนการที่เราเอาโพสต์อิทไปแปะไว้ที่เนื้อหาแต่ละส่วน เพื่อบอก AI ว่าเนื้อหาที่กำลังอ่านอยู่คืออะไร เช่น ส่วนนี้คือคำถาม-คำตอบ ส่วนนี้คือวิธีใช้งานเครื่องมือนะ การทำแบบนี้จะทำให้ AI ทำงานง่ายขึ้น 10 เท่า และมันจะเพิ่มโอกาสให้เนื้อหาของเราไปปรากฏเด่น ๆ ในหน้าค้นหา เช่น เป็น AI Overview ที่สรุปคำตอบเลย หรือเป็น Google Featured Snippet (กล่องสรุปคำตอบด้านบนสุด) ด้วยค่ะ

อ้างอิงรูปภาพ : www.networksolutions.com/blog/what-is-schema-markup-seo-benefits

 

4. สร้างยอดการกล่าวถึงแบรนด์ จากแหล่งอื่น ๆ

ลองนึกถึงแบรนด์เครื่องสำอางน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวแต่ในช่องทาง Social Media กลับมีคนดังรีวิวเพียบ ไม่ว่าจะเป็น เพจ Facebook หรือบัญชีส่วนตัว , TikTok , X หรือแม้แต่เว็บข่าวต่าง ๆ โดย AI จะมองว่าแบรนด์นี้กำลังเป็นกระแสและต้องน่าสนใจมากแน่ สิ่งนี้ไม่ได้แค่ช่วยให้เราดูน่าเชื่อถือในสายตาผู้บริโภคเท่านั้นนะ แต่ยังเป็น GEO Signal โดยตรง ที่บอก AI ว่าเว็บไซต์นี้มีความสำคัญและควรค่าแก่การแนะนำนั่นเองค่ะ

 

5. สร้างคอนเทนต์ที่สดใหม่

AI ชอบแหล่งข้อมูลที่แอคทีฟอยู่เสมอค่ะ ถ้าเว็บไซต์ของเราไม่มีการอัปเดท ปล่อยร้างทิ้งไว้มานานหลายเดือน AI อาจจะมองว่าข้อมูลเราไม่ใหม่พอที่จะนำมาใช้แล้ว และเราเข้าใจว่าไม่ใช่ทุกเว็บไซต์จะมีบทความใหม่ตลอด แต่แค่ปรับปรุงเนื้อหาเล็กน้อยก็ถือเป็นการอัปเดทแล้วค่ะ

ยกตัวอย่าง

• ปรับเปลี่ยนชื่อหัวข้อ ฉบับปี 2024 เป็น ฉบับอัปเดทปี 2025
• เพิ่มคำถามที่พบบ่อย (FAQ) เข้าไปใหม่ 2-3 ข้อ
• เพิ่มรูปภาพสินค้าใหม่ หรือเพิ่มวิธีการใช้งานสินค้าให้ละเอียดขึ้น

 

 

รู้แล้ว เริ่มเลย!

GEO ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของคนไอทีอีกต่อไปแล้ว แต่มันคืออนาคตของแบรนด์ที่เราต้องจับตามอง หากเรายังตามเทรนด์ไม่ทัน ไม่รู้ว่า GEO AI มันไปถึงไหนกันแล้ว แบรนด์ของเราอาจจะค่อย ๆ ถูก AI เมินเฉยและหายไปจากคำตอบที่ผู้ใช้งานจะเห็นโดยที่เราไม่ทันรู้ตัวเลยค่ะ

แต่ในทางกลับกัน แบรนด์ที่เริ่มปรับตัวและลงมือทำก่อนจะมีโอกาสสูงมาก ๆ ที่จะได้เป็นตัวเลือกอันดับแรกในสายตาของผู้บริโภคทันที เพราะในยุคนี้ ผู้ใช้งานได้คำตอบตั้งแต่ยังไม่ทันคลิกสักเว็บเลย GEO จึงเป็นเหมือนกุญแจดอกสำคัญที่จะช่วยให้แบรนด์ของเราไปอยู่ในจุดที่ AI เลือกที่จะแนะนำ ไม่ใช่แค่รอให้ผู้ใช้งานพยายามค้นหาจนเจออย่างที่เคยเป็นมาค่ะ